Forex ซื้อขาย ที่มี แนวโน้ม เส้น Inc Woodworkers

เส้นแนวโน้มเทรนด์เส้นแนวโน้มการวาดเส้นแนวโน้มในกราฟ Forex ให้ข้อมูลที่มีค่ามาก ไม่เพียงแค่เส้นแนวโน้มจะแสดงทิศทาง (ทิศทาง) ในปัจจุบันของการเคลื่อนไหวของราคาก็จะแสดงจุดสนับสนุนและระดับความต้านทานสำหรับราคาตลาด นอกจากนี้ยังจะช่วยในการกำหนดจุดเข้าและออกที่ดีตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการทำกำไรและการวางป้องกัน เครื่องมือที่ง่ายมาก แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงจะเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในการกลับรายการแนวโน้มที่เป็นไปได้ (เมื่อราคาตลาดเริ่มเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้าม) ดังนั้นเราจะเรียนรู้วิธีการวาดเส้นแนวโน้มที่จะทำให้เพื่อนที่ดีของเราในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่มีกำไรในเส้นแนวโน้มตลาดขาขึ้นจะวาดด้านล่างรูปแบบการสร้างใน mdash ขาลงข้างต้น (นั่นคือเหตุผลที่แนวโน้มจะเปลี่ยนเส้นแนวโน้มของเราจะถูกตัดกันซึ่งจะทำให้เรามีสัญญาณว่าราคาสามารถเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางอื่นได้) ในแนวโน้มขาขึ้นเส้นแนวโน้ม Forex จะถูกดึงผ่านจุดต่ำสุดที่แกว่งไปมา จุดปรับราคา การเชื่อมต่ออย่างน้อยสอง laowolowest lowsraquo จะสร้างเส้นแนวโน้ม ในแนวโน้มลดลงเส้นแนวโน้มจะถูกดึงผ่านจุดแกว่งสูงสุดของการเคลื่อนไหวของราคา การเชื่อมต่อ highsraquo อย่างน้อยสองชุดจะสร้างเส้นแนวโน้ม โปรดจำไว้ว่าแผนภูมิเดียวกันอาจแสดงความคิดฟุ้งซ่านและระดับต่ำสุดที่แตกต่างกันเล็กน้อยหากคุณพยายามเปรียบเทียบโฟโบรกเกอร์ต่างกัน (ความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เห็นได้ชัดมักจะเห็นได้ชัดเมื่อพูดถึงเส้นแนวโน้ม) เส้นแนวโน้มยืนยันความถูกต้องเมื่อราคาเคารพบรรทัดนี้ เส้นแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกตัวอย่างของเส้นแนวโน้มการวาด: เส้นแนวโน้มหลักและด้านใน การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เส้นแนวโน้มเป็นหนึ่งในแนวคิดพื้นฐานที่สุดของการซื้อขายประจำวัน (และการลงทุนในระยะยาว) และเป็นแนวคิดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย เส้นแนวนอนถูกนำมาใช้เพื่อการค้าตราบเท่าที่ยังมีตลาดอยู่และเหมาะกับตลาดประเภทใด ๆ (หุ้นสกุลเงินฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์ ฯลฯ ) เส้นแนวโน้มจะขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่าการตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆ (เคลื่อนไหวอย่างยั่งยืนในทิศทางเดียวและจากนั้นเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในทิศทางตรงกันข้าม) เส้นแนวโน้มแสดงทิศทางโดยทั่วไปของการเคลื่อนไหวของราคา (ขึ้นไปด้านล่างหรือด้านข้าง) ความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบันและการสนับสนุนและความต้านทานต่อในอนาคตมีแนวโน้มที่จะตั้งอยู่ นอกจากจะวาดบนแผนภูมิราคาแล้ว (แผนภูมิแท่งหรือแท่งเทียน) เส้นแนวโน้มสามารถวาดบนแผนภูมิตัวบ่งชี้ (เช่น CCI, TRIX, RSI ฯลฯ ) ซึ่งแสดงข้อมูลเดียวกัน แต่อิงตาม ค่าตัวบ่งชี้แทนราคา เส้นแนวโน้มเทรนด์ไลน์แสดงข้อมูลข้อมูลเกี่ยวกับตลาดของตนเองสามชิ้น แต่มีความเกี่ยวข้องกัน พวกเขาแสดงทิศทางของการเคลื่อนไหวของราคาปัจจุบันความแรง (หรือแม่นยำมากขึ้นความเร็ว) ของการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบันและการสนับสนุนในอนาคตและความต้านทานของการเคลื่อนไหวของราคาในปัจจุบัน ข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้แยกกันได้หรือสามารถนำมาใช้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของระบบการค้าที่มีขนาดใหญ่ แต่ละชิ้นข้อมูลที่มีค่าเหล่านี้จะอธิบายไว้ในรายละเอียดในบทความต่อไปนี้: เส้นแนวโน้มการวาดเส้นแนวโน้มจะเป็นเส้นตรงที่วาดบนกราฟราคาหรือแผนภูมิตัวบ่งชี้ เส้นแนวโน้มสูงขึ้นจะวาดเส้นทแยงมุมขึ้นจากซ้ายไปขวาเส้นแนวโน้มลดลงวาดบนเส้นทแยงมุมลงจากซ้ายไปขวาและแนวเส้นด้านข้างจะวาดในแนวนอนจากซ้ายไปขวา (-) บทแนะนำต่อไปนี้อธิบายถึงวิธีการวาดเส้นแนวโน้มแต่ละแบบ: การซื้อขายด้วยเส้นแนวโน้มมีหลายวิธีในการซื้อขายโดยใช้เทรนด์ไลน์ แต่วิธีที่เก่าแก่ที่สุดสองวิธีคือการเด้งเส้นแนวโน้มและเส้นแบ่งบรรทัด เทรนด์เทรนด์เทรนด์เทรนด์เทรนด์เทรดเนื่องจากคาดว่าราคาจะแตะเส้นแนวโน้มและกลับสู่ทิศทางเดิม ในทางตรงกันข้ามเส้นแบ่งบรรทัดแนวโน้มการค้าการกลับรายการเนื่องจากพวกเขาคาดหวังว่าราคาจะไปผ่านเส้นแนวโน้มและจากนั้นดำเนินการต่อในทิศทางใหม่ของ แม้ว่าเทรดเดอร์ที่ตรงกันข้ามเทรดทั้งเทรนด์ไลน์เทรนด์และเทรนด์ไลน์แบ่งตามเทรนด์ไลน์ที่ได้รับการสนับสนุนและความต้านทานดังนั้นผู้ค้าจำนวนมากจึงเทรดทั้งสองธุรกิจนี้ บทแนะนำต่อไปนี้อธิบายถึงการเด้งเส้นแนวโน้มและเส้นแบ่งแนวโน้มในรายละเอียด: Trendlines หักเลียงโดยไม่ต้องไป Broke การวาดเส้นแนวโน้มลงบนแผนภูมิเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับผู้ค้าด้านเทคนิคเพื่อทำความเข้าใจทิศทางของเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว ดังที่คุณอาจทราบแนวโน้มต่างๆมีหลากหลายรูปแบบและสามารถเปลี่ยนแปลงความยาวและความสำคัญได้อย่างมาก ในบทความนี้ดูแนวโน้มที่ 11 เดือนที่เราระบุไว้ในแผนภูมิของ NVR Inc. (NYSE: NVR) ในจดหมายข่าวของ ChartAdvisor ในวันที่ 12 มิถุนายน 2550 ของเรา และแสดงให้เห็นว่ามันส่งผลต่อทิศทางระยะสั้นของราคาหุ้นอย่างไร รวมถึงกลยุทธ์การหยุดขาดทุนแบบง่ายๆซึ่งอาจใช้ในการซื้อขายสัญญาณทางเทคนิคโดยพิจารณาจากการพักตัวของฝ่ายสนับสนุน สิ่งที่เราเห็นราคาเคลื่อนผ่านเส้นแนวโน้มที่ระบุเป็นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการกลับรายการแนวโน้มและตามที่เห็นในรูปที่ 1 ด้านล่างนี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแผนภูมิของแผนภูมิ NVR ในวันที่ 12 มิถุนายน เราสังเกตว่าการปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นแนวโน้มน่าจะเป็นสัญญาณแรกของการกลับรายการในแนวโน้ม แต่ก็ให้ความสำคัญกับการให้ความสำคัญกับปริมาณที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเนื่องจากอาจเป็นสัญญาณว่าการหยุดพักล้มเหลว ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงเป็นความวิตกของผู้ค้าด้านเทคนิคเพราะแสดงให้เห็นว่าหมีไม่ได้สนใจที่จะผลักดันให้ราคาลดลงอย่างมากตามที่คาดไว้ เมื่อพิจารณาปริมาณที่ต่ำและการขาดความผันผวนเราแย้งว่าควรรออีกหลายวันเพื่อยืนยันว่าบูลส์ไม่สามารถส่งราคาหุ้นย้อนหลังเส้นแนวโน้มได้ (สำหรับการอ่านที่เกี่ยวข้องโปรดดูการกลับรายการการตลาดและวิธีการตรวจสอบ) สิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีของ NVR ราคาเริ่มขยับขึ้นและมีการยืนยันทางเทคนิคว่าการวิเคราะห์ไม่ถูกต้อง โดยพยายามผลักดันราคาขึ้นสู่แนวระดับที่ตั้งขึ้นใหม่ แต่ความพยายามนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมของผู้ขาย ทดสอบความต้านทานซ้ำหรือที่เรียกว่าการย้อนกลับ เป็นเหตุการณ์ทั่วไปที่เกิดขึ้นในการซื้อขายและการเคลื่อนตัวที่ล้มเหลวโดยปกติจะเป็นชิ้นสุดท้ายที่ต้องได้รับการยืนยันจากผู้ค้าที่ต้องการหากำไรจากการคลายตัว (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดอ่าน Trading Failed Breaks) เมื่อฝุ่นตกลงมาใกล้ปลายเดือนกรกฎาคมความผันผวนยังคงสูงและปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย หุ้น NVR โฉบลงมาที่ 600 จุดซึ่งร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 723 วันส่วนเส้นทแยงมุมใต้เส้นแนวโน้มเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแรงผลักดันที่กำลังจะมาถึงและเป็นกลยุทธ์ที่สร้างผลกำไรให้กับผู้ที่รู้ว่าจะหาอะไรได้บ้าง (หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรวมเครื่องมือนี้ไว้ในยุทธศาสตร์ของคุณโปรดดูที่การติดตามราคาสินค้าด้วย Trendlines) No Mans Land สัญญาณที่ชัดเจนของหุ้นที่ตัดผ่านเส้นแนวโน้มคือขั้นตอนแรกในการทำกำไรจากการค้า อย่างไรก็ตามการทำกำไรไม่ใช่เรื่องง่ายนัก งานของผู้ค้ากลายเป็นเรื่องยากมากเมื่อหุ้นซื้อขายระหว่างกึ่งกลางระหว่างระดับอิทธิพลและความต้านทานเนื่องจากในมุมมองทางเทคนิคหุ้นอาจไปได้ไม่ว่าทางใด คำถามที่อยู่ในใจผู้ค้าจะมาถึงอย่างรวดเร็ว: ฉันควรจะทำกำไรเมื่อโมเมนตัมลดลงและนี่เป็นแค่ช่วงเวลาของการผสานรวมก่อนที่หมีจะยังคงกดหุ้นต่ำลงอย่างที่คุณเห็นจากแผนภูมิด้านล่าง NVR มีแนวโน้มลดลง ในช่วงสองสามเดือนข้างหน้าใกล้สิ้นสุดที่ 560 จุดสำคัญที่ต้องบอกว่ากำไรพิเศษจาก 600-550 มีมูลค่าสูงกว่ามากเนื่องจากผู้ประกอบการค้ามีความเสี่ยงที่จะให้ผลกำไรที่ดีขึ้นในกรณีที่หุ้นนั้น สามารถหาแรงที่ไม่คาดคิดบางอย่างได้ ขอให้สังเกตว่าในรูปที่ 2 หุ้นมีการซื้อขายระหว่างครึ่งปีแรกของเดือนมีนาคม 2550 ถึงระดับต่ำสุดของเดือนพฤษภาคมจากปี 2549 ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการค้ารายย่อยไม่แน่ใจเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต นอกจากนี้ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอีกครั้งยังชี้ให้เห็นว่าผู้ค้าเสียดอกเบี้ย หากผู้ค้าไม่ได้กำหนดเป้าหมายอาจเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดในการปิดบางส่วนหรือทั้งหมดของตำแหน่งที่จุดเชื่อมต่อเช่นนี้และมองหาการค้าที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จ กลยุทธ์สำหรับการจัดการการสูญเสียการหยุดชะงักนอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์ที่ผู้ค้าสามารถพิจารณาเมื่อใช้เส้นแนวโน้มเป็นพื้นฐานสำหรับการค้า ความผันผวนของระดับสูงสุดในรอบก่อนหน้านี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของพื้นที่ที่มีศักยภาพซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของหุ้น ระดับเหล่านี้เป็นระดับที่ราคากลับกันในอดีตและผู้ค้ามักจะมองหาสถานการณ์นี้ที่จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ตามที่เห็นในรูปที่ 3 ด้านล่างมักมีหลายฝ่ายสนับสนุนและกลยุทธ์หนึ่งก็คือการกำหนดคำสั่งหยุดขาดทุนเหนือระดับก่อนหน้าของความต้านทาน (ในกรณีที่เป็นตำแหน่งสั้น) และตามลำดับที่อยู่ด้านหลัง ราคาที่ต่ำกว่าระดับราคาที่ต่ำกว่า โปรดจำไว้ว่าผู้ค้าจะให้ความสนใจกับระดับที่ได้รับการทดสอบหลายครั้ง (เส้นสีแดง) เนื่องจากมีอิทธิพลทางประวัติศาสตร์ ในตัวอย่างนี้ผู้ค้าที่มีระดับความเสี่ยงสูงกว่า หรือผู้ที่มีระยะยาวในการลงทุนในระยะยาวอาจเลือกที่จะหยุดเดินรถเหนือแนวต้านที่พบได้สองระดับมากกว่าราคาปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้การรักษาความปลอดภัยที่กำหนดให้มีความผันผวนมากขึ้นและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวที่ลดลงเป็นเวลานาน เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่ากลยุทธ์ของรุ่นนี้จะนำไปสู่การสูญเสียขนาดใหญ่หากราคาหยุดถึง แต่ยังสามารถนำไปสู่การเพิ่มขึ้นที่มีขนาดใหญ่ สิ่งที่เราได้เรียนรู้การลดลงของเส้นแนวโน้มมักใช้โดยผู้ค้าเป็นสัญญาณของการกลับรายการในแนวโน้มปัจจุบัน การย้ายที่ชัดเจนด้านล่างเส้นแนวโน้มเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีในการกำหนดราคาเริ่มต้นเชิงกลยุทธ์ บางครั้งการดำเนินกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงแบบง่ายๆเพียงบางเวลาเท่านั้นที่จะช่วยป้องกันผลกำไรจากการได้รับแรงผลักดันที่มาพร้อมกับความล้มเหลวผ่านทางเส้นแนวโน้ม